วันที่ 30 กันยายน 2568 มีรายงานความคืบหน้าการจัดทำโครงการคนละครึ่ง-พลัส
และเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤษภาคม โดย นายอนุทิน
ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี
ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังเร่งจัดทำงบประมาณสำหรับดำเนินการแจกเงินแก่ประชาชนสูงถึง
33 ล้านคน ซึ่งล่าสุด กระทรวงการคลังได้เตรียมแผนงบประมาณไว้แล้ว
คาดว่าทั้งสองโครงการจะใช้งบรวมกันมากกว่า 66,500 ล้านบาท
สำหรับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณ 22,100 ล้านบาท
เพื่อเติมเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จำนวน 13 ล้านคน จากเดิมได้รับเดือนละ 300
บาท จะได้รับเพิ่มอีก 1,700 บาท รวมเป็น 2,000 บาท
สำหรับใช้จ่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมนี้ ส่วนโครงการคนละครึ่ง-พลัส
ใช้งบประมาณ 44,400 ล้านบาท เพื่อแจกให้กับผู้ได้สิทธิ์ 20 ล้านคน
โดยแบ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี 9 ล้านคน จะได้รับเงินคนละ 2,000
บาทและผู้ที่อยู่ในระบบภาษี 11 ล้านคน จะได้รับเงินคนละ 2,400 บาท
โดยสามารถใช้จ่ายได้วันละไม่เกิน 200 บาท ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2568
แหล่งเงินที่ใช้ในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เบื้องต้นจะใช้งบกลางปี 2568
ที่ยังเหลืออยู่ โดยรัฐบาลจะนัดประชุมคณะรัฐมนตรีทันทีหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
เพื่อเร่งอนุมัติงบกลางปี 2568 ให้เสร็จภายในวันที่ 30 กันยายนนี้
หากไม่ทันจะไม่สามารถใช้งบได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันงบกลางปี 2568 ยังเหลือ
โดยเฉพาะงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีอยู่กว่า 26,000 ล้านบาท
ซึ่งคณะรัฐมนตรีสามารถอนุมัติเงินก้อนนี้โอนเข้ากองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้ก่อนและให้กองทุนทยอยแจกจ่ายให้ประชาชนในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมนี้
ส่วนโครงการคนละครึ่ง-พลัส จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์ถัดไป
ช่วงต้นเดือนตุลาคม โดยจะใช้งบประมาณจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2569 ที่ตั้งไว้ 25,000
ล้านบาท รวมทั้งดึงงบกลางฉุกเฉินของนายกรัฐมนตรีที่มีอยู่กว่า 100,000 ล้านบาท
มาดำเนินการแจกจ่ายแก่ผู้ได้รับสิทธิ์คนละครึ่งกว่า 20 ล้านคน